ความฝัน วันเวลา เงินตรา ชีวิต
นานแค่ไหนแล้วนะที่ตื่นลืมตาทักทายเพดานและฝนังห้องสีขาว เหมือนจะขาวนะ แต่มองอีกทีก็คล้ายจะเป็นสีเหลือง นานแค่ไหนแล้วนะ นานจนชินกับความไม่มีอะไร
ก้าวเท้าลงแตะพื้นทีละข้าง
ด้วยความไม่ต้องเร่งรีบอะไร ใช้ชีวิตช้ากว่าหอยทากเดินทับกองกาวเสียอีก จะช้าไปไหน
แต่มันก็สบายดี พื้นเย็น ๆ ทำให้ตื่นชื่นขึ้นอีกนิด ดวงตาเริ่มชัดขึ้นมองเห็นทุกอย่างในห้องปกติ
ความปกติที่ไม่มีอะไรเพิ่มเติม ไม่มีความตื่นเต้น ไม่มีความแปลกใหม่ นั่นคือปกติ
ย้ายตัวเองออกจากเตียงมาที่โต๊ะทำงาน เลื่อนเก้าอี้มานั่ง
เปิดคอมพิวเตอร์เช็คความเคลื่อนไหวทางโลกโซเชียล ที่มีให้เสพตลอด 24 ชั่วโมง
แต่ไม่มีสักคนที่กล่าวถึงเรา มีเมล์แจ้งเตือนเงินเข้า
รู้สึกชีวิตได้รับปุ๋ยและสารอาหารที่จะหายใจต่อได้ไปอีกหน่อย
นึกขึ้นได้ว่าต้องเก็บที่นอน
เดินไปพับผ้าห่ม จัดหมอน วางไว้มุมบนหัวเตียง รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในระบบภายในร่างกาย
อาการแบบนี้น่าจะเรียกว่า หิวข้าว แน่ ๆ น่าจะเป็นอะไรแบบนั้นแหละ ทำอะไรดีนะ ทำงานก่อน ? กินข้าวก่อน ?
อาบน้ำก่อน ? บางทีมันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่เราต้องมานั่งคิดยากอะไรเลย
แค่เดินไปอาบน้ำไปหาข้าวทานแล้วมานั่งทำงานต่อ นั่นคือ มนุษย์ปกติเขาทำกัน
แต่มนุษย์ที่หาความขยันยากอย่างเราคงต้อง
คิดสักหน่อยเพื่อจะได้ประหยัดพลังงานให้เยอะที่สุด มันก็เลยกลายเป็น ล้างหน้า
แปรงฟัน แน่นอนว่ายังไม่อาบน้ำ ลงไปหากับข้าว และได้คาปูชิโน่มา 1 แก้ว
ทั้งที่คิดไว้ว่าจะกินแค่ลาเต้ เบา ๆ
พร้อมได้ข้าวเหนียวมา 2 ห่อ กับข้าวไม่มี กลับขึ้นมาหาห้อง
และทำตำถั่วฝักยาวเอง มันคงไม่ได้อร่อยไปกว่าร้านทำ
แต่มันดีตรงที่ไม่ต้องปล่อยให้กระดาษในกระเป๋าที่เขาเรียกว่า เงิน
นั้นเปลี่ยนเจ้าของเร็วเกินไป
ทำกับข้าวเสร็จนั่งทาน
พร้อมทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์ ฟังเพลงลูกทุ่ง ชวนคิดถึงหมาที่บ้าน ผ่านสายลมเย็น ๆ
ที่ส่ายไปมาเป็นระรอกเบอร์ 3 ของพัดลมตัวโย่ง
ที่ปุ่มล็อคตรงข้างหลังหยุดทำงานไปหลายเดือนแล้ว
มันเลยต้องส่ายหน้าทุกครั้งที่เริ่มทำหน้าที่
อยู่ไกลสักแค่ไหนกันนะความฝัน
เวลาที่มีกับชีวิตที่เหลือจะตามหาทันไหม ? มันยังคงเป็นคำถาม และก็ยังเป็นคำถามอยู่แบบนั้น
เพราะคำตอบมันยังไม่มีวี่แววว่าจะมา
ความฝันของเราบางทีก็ต้องยอมเอาเก็บมันไว้ข้างหลัง
ในเมื่อหน้าที่มันสำคัญมากกว่า
วันเวลาเคลื่อนคล้อยลอยเร็ว(ชิบหาย)
ผ่านมาไม่เท่าไร สักหน่อยก็จะเข้าเลข 3 ไม่สิ ยังอีกหลายปีอยู่
แต่มันก็อายุเยอะแล้ว เทียบวันนี้กับวันก่อนเราก็เริ่มที่จะยืนเองได้เลย
แม้จะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
อย่างที่มนุษย์ทั่วไปเขาชอบเรียกกันว่าความสมบูรณ์แบบของชีวิต จอมปลอม หรือ
ของจริง ไม่รู้ แต่หลายคนก็ต้องการมัน เช่น บ้าน
รถ ครอบครัว เงิน อำนาจ
แต่บางทีเราก็มีทุกอย่างพร้อมกันไม่ได้
โดยเฉพาะตอนนี้ เรายังไม่มีอะไรเลย
ยกเว้น ครอบครัว เพราะเป็นสิ่งสำคัญ อันดับหนึ่ง ของการมีชีวิตอยู่ในตอนนี้
รองจากนั้น ก็ความฝัน ของตัวเอง ความฝันที่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะเป็นจริงไหม
.
เสียงเพลงดังก้องวนไปเพลงแล้วเพลงเล่า
งานยังคงกองทับภูเขาและรู้สึกขอบคุณ ที่งาน ยังมีเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย
เพราะงานมันหมายถึงเงินตรา แม้จะต้องใช้เวลาอยู่กับมัน นานกว่าการอยู่กับตัวเอง
เสียงแจ้งเตือนแชทดังว่า ต้องทำงานแล้ว คงต้องหยุดการแอบเพ้อไว้เท่านี้ก่อน
เพลงยังดังวนอยู่อย่างนั้น ตำถั่วหมดไม่ถึงครึ่งจาน ไม่ใช่เพราะทานไม่อร่อย
แต่เพราะมันเหงาเกินไปที่จะกลืนไหว กับอะไรที่เรียกว่า ลำพัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น